“นายสาวไหม” อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตที่เกย์ต้องเจอ

     เคยไหม ที่เราอยากรู้ว่าใครสาวหรือไม่สาว แล้วสาวแค่ไหนถึงจะเรียกว่าสาว แบบนี้เกย์ที่แสดงออกแบบตุ้งติ้งจะถูกปิดกั้นจากสังคมหรือไม่?

     จากที่บอกว่าหลายคนมองว่าไทยเราเปิดกว้างมากในเรื่องของรสนิยมทางเพศ ซึ่งเป็นแบบนั้นจริงเหรอ? สังคมไทยเราเปิดกว้างแล้วจริง ๆ ใช่ไหม? อ่ะมาดูกัน

     ในวงการบันเทิงไทย ศิลปินมากมายยังคงถูกเหล่าแฟนคลับตั้งคำถามว่า คนนี้เป็นเกย์มั้ย? คนนี้เป็นป่ะ? เป็นแล้วยังไง?..... ถ้าเขาจะเป็นเกย์ หรือไม่เป็นเกย์ ความนิยม หรือความชอบของแฟนคลับจะลดน้อยลงเหรอ? แบบนี้เรียกว่าสังคมเปิดกว้างแล้วหรือยัง ในเมื่อเรายังเอาเรื่องเพศมาเป็นตัวตัดสินใจความชอบกันอยู่ หากเขาเป็นเกย์คนจะชอบน้อยลงเพียงเพราะรสนิยมทางเพศของเขางั้นหรือ? 

     ไม่ใช่เพียงคนทั่วไปเท่านั้นที่ยังคงไม่เปิดรับ แต่เกย์ด้วยกันเองก็ยังคงเหยียดความสาวของเพื่อนเกย์เช่นกัน เคยได้ยินคำว่า “สาวเสียบ” ไหม? หรือเคยเห็นเกย์แต่งหญิงที่พฤติกรรมทางเพศเป็นรุกไหม? ยุคสมัยนี้ หลายคนคาดหวังให้เกย์แมนเป็นรุก และเกย์สาวเป็นรับ ซึ่งในความเป็นจริงมีเกย์รุกหลายคนที่แสดงออกท่าทีตุ้งติ้งแต่ยังคงมีบทบาททางเพศเป็นรุก แต่หลายครั้งเกย์มักจะเจอกับคำถามว่า “สาวไหม” 

     สาว ในที่นี้หมายถึงพฤติกรรมตุ้งติ้งที่เกย์จะแสดงออกมา แต่เกย์ส่วนมากมักจะไม่ชอบคุยกับคนที่ “สาวกว่า” เพราะขึ้นชื่อว่าเกย์มันก็จะมีความสาวนิด ๆ ไม่มากก็น้อย ซึ่งเกย์ส่วนใหญ่จะถวิลหาเกย์แมน ๆ จนกลายเป็นสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์กันไม่จบไม่สิ้น ว่านี่คือการเหยียดความสาวของเพศ หรือเหยียดความเป็นเกย์กันแน่ 

     สำหรับเรื่องเล่าจากครูใหญ่วันนี้คงไม่มีคำตอบสำหรับคำถามที่ตั้งเอาไว้ แต่อยากถามกับผู้อ่านทุกคนว่า เราจะตั้งคำถามกันทำไม ว่าอีกฝ่ายเป็นเกย์หรือไม่ แล้วถ้าเป็นเกย์ ความสาวจะทำให้คุณไม่อยากรู้จักเขาหรือ? 

     สำหรับทางออกที่ครูใหญ่จะเสนอคือ หากเกย์ที่เจอคำถามนี้ก็ควรตอบไปเลยว่า ไม่ได้แมนถึงขั้นเตะบอล และไม่ได้สาวถึงขั้นเป็นบริทนีย์ แต่หากคุณเป็นเกย์รุกที่ออกสาวหรือแต่งหญิงก็อาจจะต้องทำใจ เพราะคนที่ยังไม่ได้เปิดกว้างเปิดใจรับยังมีอยู่อีกมาก เพราะถึงแม้เราจะพูดกันอย่างติดปากว่าสังคมไทยเปิดกว้าง แต่เกย์ด้วยกันเองยังใช้ลักษณะท่าทางหรือพฤติกรรมภายนอกมาตัดสินกันเองอยู่ ซึ่งเรื่องนี้คงแก้ไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลที่ยังคงยึดติดกับภาพจำเก่า ๆ ที่บอกว่า รุกต้องแมน และรับต้องสาว แม้ว่าปัจจุบันเส้นแบ่งระหว่างรุกกับรับมันแทบจะเลือนลางแล้วก็ตาม 

     นอกเหนือจากคำถามเซ็ตที่ว่า อย นน สส แบบไหน แถวไหน ที่เกย์เจอประจำแล้ว ( อ่านบทความ เคยโดนถามแบบนี้ไหม? อย นน สส แบบไหน แถวไหน? ที่ : https://prof-yai.blogspot.com/2018/10/do-you-ever-see-these-questions.html ) ก็ยังมีคำถาม “สาวไหม” นี่แหละ ที่เกย์มักเจอ คำถามที่อยากฝากให้กลับไปคิดคือ เราถามไปเพื่ออะไร และหากเราโดนถามบ้างจะเป็นอย่างไร มองว่านี่คือการเหยียดเพศ หรือการเหยียดพฤติกรรมกันแน่? เพราะความรักมันควรจะเป็นเรื่องของความรู้สึกไม่ใช่หรือ แต่เรายังคงยึดติดกับพฤติกรรมของกันและกัน มองอีกฝ่ายว่าสาวหรือแมน คาดเดาว่าอีกฝ่ายจะเป็นรุกหรือเป็นรับ นี่เรากำลังเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์หรือเปล่า?

     ไม่ว่าใครจะเป็นรุกเป็นรับ มันไม่น่าเป็นเรื่องที่มาใช้ในการตัดสินใจในการที่เราจะรักใครสักคน เพราะความรักคือเรื่องของความรู้สึก จึงไม่ควรเอาเรื่องของเซ็กส์มาตัดสิน

     จงอย่าตัดสินคนอื่นเพื่อตัดสิทธิ์ของตัวเองในการทำความรู้จักเพียงเพราะเขาสาวกว่าคุณเลย เพราะเราเองไม่ใช่หรือที่อยากให้สังคมไทยเปิดกว้างยอมรับ แต่เรากลับยังไม่ยอมรับในพวกเดียวกัน แล้วแบบนี้ใครจะมายอมรับเรากัน?

 

ฝากไว้ให้คิด
ครูใหญ่